Chat with us, powered by LiveChat แอโรบิคคืออะไร พร้อมวิธีการเต้น แอโรบิค ที่ถูกต้อง | SbobetStep แทงบอลออนไลน์ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัยและได้มาตรฐานอันดับ 1

แอโรบิคคืออะไร พร้อมวิธีการเต้น แอโรบิค ที่ถูกต้อง

การเต้นแอโรบิคเป็นการออกกำลังกายให้เข้ากับจังหวะไปตามเพลง แรกเริ่มเดิมทีจะใช้การนับเลข หนึ่ง สอง สาม เป็นต้น หรือบางพื้นที่ก็จะใช้นกหวีด มาช่วยทำให้เกิดเสียงตามจังหวะ แต่พอนานๆ ไปมันก็น่าเบื่อจึงได้มีการนำเพลงมาเปิดเพื่อเพิ่มความสนุกในการเต้น และเพลงที่ใช้ในรุ่นแรกก็เป็นเพลงแนวร๊อค ที่มีจังหวะเร้าใจและดนตรีที่หนักแน่น ทำให้เพิ่มความฮึด และเพลิดเพลินจนทำให้ผู้ที่เต้น แอโรบิค สามารถเต้นได้นานขึ้นเป็นชั่วโมงๆ นับตั้งแต่ที่ใช้วิธีนี้เป็นต้นมา

แต่ทว่า แอโรบิค อาจจะไม่ได้มีต้นกำเนินมาจากการเต้นตามจังหวะเพลงเสมอไป เพราะคำว่า แอโรบิค แปลตรงตัวได้ว่า ขบวนการที่ใช้ออกซิเจน เนื่องจาก จุลินทรีชนิดนี้เป็นจุลินทรีที่ต้องการออกซิเจนเพื่อใช้ในการเติบโต ซึ่งมนุษย์เรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ออดซิเจน ในการดำรงชีวิตกันอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าการเต้นแอโรบิคจะช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ออกซิเจนได้มากขึ้นถึงร้อยละ 70 ขึ้นไปที่จะทำให้หัวใจและปอดได้ทำงานหนักขึ้น เมื่อปอดและหัวใจทำงานหนักขึ้นก็จะส่งผลให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานและเผาผลาญอาหารได้เป็นอย่างดี  เมื่อระบบร่างกายภายในดีก็จะส่งผลต่อสุขภาพภายนอกอีกด้วย

ร่างกายของคนเรานั้น มีความสามารถในการทำงานของหัวใจและปอดที่ต่างกันในแต่ละคน

สำหรับคนทั่วๆ ไปที่นั่งๆ กินๆ นอนๆ โดยที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ตามปกติคนเหล่านี้จะสูดเอาออกซิเจนเข้าไปได้เต็มที่ประมาณ 30-40 มิลลิเมตรต่อน้ำหนักตัว หนึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งนาที ในเพศหญิง ในส่วนของเพศชายจะมีมวลกล้ามเนื้อที่มากกว่าทำให้สามารถสูดเอาออกซิเจนเข้าไปได้มากกว่าเพศหญิง เพศชายจะสูดเอาออกซิเจนเข้าไปได้เต็มที่ 40-50 หนึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งนาที

ส่วนด้านของนักกีฬาที่มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพศหญิงจะสามารถสูดเอาออกซิเจนเข้าไปได้เต็มที่ประมาณ 50-60  มิลลิเมตรต่อน้ำหนักตัว หนึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งนาที ส่วนของเพศชายจะอยู่ที่ 60  มิลลิเมตรต่อน้ำหนักตัว หนึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งนาทีขึ้นไปโดยประมาณ

สำหรับนักกีฬามืออาชีพส่วนใหญ่จะมีเครื่องช่วยวัดปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายจะได้รับต่อหนึ่งนาที แต่สำหรับบุคคลทั่วไปให้ใช้การวัดจากการเต้นของหัวใจหรือการจับที่ชีพจรก็ได้ ซึ่งถ้าหากหัวใจมีการเต้นเร็วขึ้นหรือชีพจรมีการเต้นเร็วมากขึ้นหมายความว่าร่างกายจะได้รับออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

การเต้นแบบไหนที่จะเรียกว่าการเต้นแบบ แอโรบิค

การเต้นแอโรบิค จะทำให้ชีพจรเต้นเร็วขึ้นได้ประมาณร้อยละ 70 แต่ก็ไม่ควรเกินร้อยละ 85 ซึ่งเรามีวิธีการคำนวณอัตราการเต้นของชีพจรดังนี้ ให้เอาอายุไปลบกับ 220 ตัวอย่างเช่น คนอายุ 40 – 220 ก็จะได้ 180 ครั้งต่อนาที ชีพจรควรที่จะเต้นเร็วตอนที่เต้น แอโรบิคถึง 126 ครั้งต่อนาทีแต่ก็ไม่ควรเกิน 153 ครั้งต่อนาที ซึ่งการเต้น แอโรบิค  ที่ว่านี้หากร่างกายของคนที่เต้นแอโรบิค ไม่ได้ขยับมากหรือเร็วจนทำให้ชีพจรเต้นเร็วขึ้นได้ก็จะไม่ได้เรียกว่าการเต้น แอโรบิค  นั่นเอง

การเต้นแอโรบิคที่ดีควรทำสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ให้อยู่ในช่วงเวลา 15-60 นาที แต่การที่จะเต้นให้ได้ผลและดีต่อร่างกาย ต้องคำนึงถึงความสามารถร่างกายของแต่ละคนด้วย เพราะการเต้นด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายที่เร็วและแรงเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ สำหรับคนที่จะเริ่มเต้นแอโรบิค ควรวอร์มร่างกายเสียก่อน และควรลงทุนกับรองเท้าอย่างพอดี เพราะถ้ารองเท้าไม่นิ่ง หรือ คับเกิดไปก็อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

สำหรับการเต้นแอโรบิคอาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่สำหรับใครที่ชอบสายออกกำลังกายก็อย่าพึ่งท้อเพราะยังมีการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นๆ อีกมากมาย